ถึงแม้ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา อาร์เซน่อลอาจจะยังไม่ใช่ทีมที่ประสบความสำเร็จมากนักในเกาะอังกฤษ แต่ก็ยังคงความเป็นยอดทีมได้เสมอมา ด้วยผลงานการคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ถึง 3 สมัย และเป็นรองแชมป์พรีเมียร์ ลีกในฤดูกาล 2015/2016 ที่ผ่านมาว่ากันว่าอาร์เซน่อลคือทีมที่ไม่เคยขาดผู้เล่นดีๆ จึงทำให้มียอดแข้งมากมายเข้าค้าแข้งในถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดียมแห่งนี้ โดยในวันนี้จะมากล่าวถึง 11 ผู้เล่นยอดเยี่ยมของอาร์เซน่อลในยุค 10 ปีที่ผ่านมา ในระบบการเล่นแบบ 4-3-3 ระบบยอดนิยมในโลกฟุตบอลปัจจุบัน
ไม่มีใครไม่รู้จักกับ 7 นักเตะระดับโลก ทั้งหมดที่คว้า Golden Boy 2019
1. ผู้รักษาประตู : ปีเตอร์ เช็ก
ถึงแม้ว่าจะก้าวเข้ามาอาร์เซน่อลในช่วงบั้นปลายของอาชีพนักฟุตบอลแล้ว แต่ปีเตอร์ เช็กก็มาพร้อมกับความสม่ำเสมอ และประสบการณ์อันยาวนานในพรีเมียร์ลีก โดยในฤดูกาลแรกที่ลงสนามให้กับอาร์เซน่อล เช็กสามารถคว้ารางวัลถุงมือทองคำ ด้วยการทำไป 16 คลีนชีท และลงสนามในนามของปืนใหญ่ไป 139 เกม
2. แบ็คขวา : เอคตอร์ เบเยริน
แบ็คขวาอนาคตไกล ที่ได้ลงสนามให้กับอาร์เซน่อลนัดแรกตั้งแต่อายุ 19 ปี ก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักเต็มตัวของอาร์เซน่อลด้วยฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมและความเร็ว โดยเบเยรินเป็นผู้ทำลายสถิติของธีโอ วัลคอตต์ ในการวิ่ง 40 เมตร จึงทำให้เบเยรินเป็นผู้เล่นที่วิ่งเร็วที่สุดในอาร์เซน่อล
3. แบ็คซ้าย : นาโช่ มอนเรอัล
แฟนอาร์เซนอลน้อยคนจะรู้จักชื่อเมื่อเขาย้ายมาจาก มาลาก้า ในปี 2013 แต่เขาก็เป็นหนึ่งในนักเตะที่ฟอร์มสม่ำเสมอที่สุดตลอด 6 ปี มอนเรอัลลงสนามให้ปืนใหญ่ไปแล้ว 250 เกม ก่อนจะย้ายกลับสเปนไปร่วมทีมเรอัล โซเซียดาดเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา เขาเป็นอีกคนที่ได้รับเหรียญแชมป์ FA 3 สมัย เขาสามารถยิงได้ 10 ประตูให้กับอาร์เซน่อล โดย 6 จากในนั้นมาจากฤดูกาล 2017-2018 และได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมอันดับ 2 เมื่อจบฤดูกาล
คอลูกหนังไม่มีใครไม่รู้จักแน่นอนกับ ผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในโลก
4. กองหลัง : โลรองต์ กอสเซียลนี่
แม้จะจากกันแบบไม่ค่อยดี แต่กอสเซียลนี่ก็ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของเกมรับอาร์เซน่อลตลอดทศวรรษที่ผ่านมา เขาย้ายมาจากลอริยงต์ในปี 2010 ลงสนามไปแล้ว 353 เกมให้อาร์เซนอล และเป็นกัปตันทีมในยุคของเวงเกอร์ นอกจากนี้เขามักจะทำประตูสำคัญได้บ่อยครั้ง เช่น การยิงประตูนัดสุดท้ายของฤดูกาล 2012 และ 2013 ทำให้อาร์เซน่อลการันตีอันดับ 4 โดยดาวเตะฝรั่งเศสคนนี้ยังสามารถคว้าแชมป์เอฟเอ คัพถึง 3 สมัยในถิ่นเอมิเรตส์
5. กองหลัง : โทมัส แฟร์มาเลน
กองหลังอดีตกัปตันทีมอาร์เซน่อล ย้ายมาจากอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ด้วยค่าตัวเพียง 10 ล้านปอนด์ ถือเป็นอีกหนึ่งดีลสุดคุ้มของอาร์เซน่อล แฟร์มาเลนเป็นกองหลังที่สูงเพียง 182 เซนติเมตร แต่มีทักษะในเกมรับที่ยอดเยี่ยมละสามารถทำประตูด้วยการโหม่งบ่อยครั้ง โดยในฤดูกาล 2009/2010 แฟร์มาเลนสามารถทำประตูให้กับอาร์เซน่อลได้ถึง 8 ลูก โดยแฟร์มาเลนลงเล่นให้กับอาร์เซน่อลไป 150 นัด และสามารถคว้าแชมป์เอฟเอ คัพได้ 1 สมัย
6. กองกลาง : เชส ฟาเบรกาส
เป็นอีกหนึ่งตำนานกัปตันทีมของอาร์เซน่อล ด้วยความสามารถในการอ่านเกมและทักษะการจ่ายบอลที่ยอดเยี่ยม ทำให้ฟาเบรกัสมักจะมีการแอสซิสต์สวยๆให้เห็นมากมาย โดยฟาเบรกาสลงเล่นในพรีเมียร์ลีกให้กับอาร์เซน่อลไป 212 นัด สามารถทำแอสซิสต์ได้ถึง 71 ครั้ง สูงเป็นอันดับ 2 ของทีม รองจากเธียรี่ อองรี
7. กองกลาง : ซาเมียร์ นาสรี่
ยอดกองกลางมากพรสวรรค์ชาวฝรั่งเศส มาพร้อมกับทักษะการเลี้ยงบอลและการจ่ายบอลที่ยอดเยี่ยม เขาคือกองกลางในแฟนอาร์เซน่อลหวังให้ขึ้นมานำทีม หลังจากการจากไปของฟาเบรกาส แต่กลายเป็นว่าเขาเลือกที่จะทิ้งทีมไปอยู่กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ สร้างความไม่พึงพอใจอย่างยิ่งให้กับแฟนปืนใหญ่ แต่ก็ต้องยอมรับว่าตลอดช่วงเวลาที่อยู่กับอาร์เซน่อลเขาสามารถสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการลงเล่นไป 125 นัด ทำไป 27 ประตูกับอีก 16 แอสซิสต์
8. กองกลาง : ซานติ การ์ซอล่า
หนึ่งในสุดยอดนักเตะที่สามารถเล่นบอลทั้งสองเท้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งยิง เลี้ยง จ่าย รวมถึงการยิงฟรีคิกได้ทั้งเท้าซ้ายและขวา เขาสร้างชื่อในเอมิเรตส์ตลอด 6 ปีกับอาร์เซนอล หลังจากย้ายมาจากมาลากาในปี 2012 เขาปรับตัวเข้ากับทีมได้ทันที และพาตัวเป็นไปเป็นหนึ่งในนักเตะทรงอิทธิพลของปืนใหญ่ ลงสนามมาแล้วทุกตำแหน่งในพื้นที่กลางสนาม ดาวเตะชาวสเปนสามารถสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม จนได้รับการยอมรับเป็นหนึ่งในสุดยอดมิดฟิลด์ของพรีเมียร์ลีก มีส่วนสำคัญให้อาร์เซนอลได้แชมป์ FA Cup 2 สมัย ในปี 2014 และ 2015 เขายิงฟรีคิกสุดสวยให้อาร์เซนอลตามตีเสมอในนัดชิงกับฮัลล์ ซิตี้ และได้รับรางวัลแมน ออฟ เดอะแมตช์ในนัดชิงปีถัดมากับแอสตัน วิลล่า แต่โชคร้ายที่การบาดเจ็บคอยรบกวนยอดกองกลางผู้นี้ตลอด 2 ปีสุดท้ายกับสโมสร อย่างไรก็ตาม เขายังคงทำได้ 29 ประตู และ 42 แอสซิสต์ตลอด 180 เกมที่ผ่านมา
9. ปีกซ้าย : อเล็กซิส ซานเชส
เป็นหนึ่งในบิ๊กดีลที่สร้างความฮือฮาในเกาะอังกฤษขณะนั้น เขาเซ็นสัญญาหลังจากจบบอลโลกปี 2014 และสร้างความนิยมได้ทันทีที่เอมิเรตส์ด้วยความมุ่งมั่นและเต็มที่ทุกครั้งที่ได้ลงสนาม เขาสามารถคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของสโมสรได้ทันทีนับตั้งแต่ปีแรกที่เข้ามา พร้อมทั้งติดทีมยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีดฤดูกาล 2014/2015 เขาใช้เวลาร่วมกับทีม 3 ปีครึ่ง ก่อนจะย้ายไปร่วมทีมแมนยู หลังจากปฏิเสธที่ต่อสัญญากับทีม ด้วยการจากลาที่ไม่สวยงามและปลายทางที่เขาเลือก เขาพยายามเป็นที่ถูกลืมของแฟนบอล แต่ผลงานของเขาก่อนจากไปนั้นยอดเยี่ยมเหลือเกิน ตลอด 166 เกมกับอาร์เซน่อล ซานเชสสามารถทำประตูได้ 80 และคว้าแชมป์เอฟเอคัพไป 2 สมัย โดยสามารถทำประตูในนัดชิงได้ทั้ง 2 ครั้ง
10. ปีกขวา : ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง
ยอดกองหน้าความเร็วสูงที่สามารถเล่นได้ทั้งหน้าเป้าและปีก เจ้าของรางวัลดาวซัลโวประจำพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลที่ผ่านมา โอบาเมยองคือหนึ่งในนักเตะที่สามารถจบสกอร์ได้ดีที่สุดของอาร์เซน่อลในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ลงสนามให้ปืนใหญ่ไปแล้ว 75 นัด สามารถทำได้ถึง 49 ประตู คิดเฉลี่ยเป็น 0.6 ประตูต่อนัด ถือว่าเป็นกองหน้าตัวความหวังของอาร์เซน่อลในยุคปัจจุบันนี้
11. กองหน้า : โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
มีเพียง 2 จาก 8 ฤดูกาลเท่านั้น ที่ฟาน เพอร์ซีรับใช้ให้กับสโมสรในทศวรรษที่ผ่านมา ก่อนที่ดาวยิงชาวเนเธอร์แลนด์จะลาสโมสรไปร่วมทีมกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ข้อเท็จจริงคือการย้ายทีมของเขาค่อนข้างเป็นที่น่ากังขา และอยู่ในช่วงเวลาที่ทีมกำลังลำบาก แต่มันก็ยากที่ลืมว่าเขาทำอะไรให้กับสโมสรเอาไว้ใน 2 ปีก่อนจะย้ายออกไป เขายิง 22 ประตูจาก 33 เกมในฤดูกาล 2010/2011 และ 37 ประตูจาก 48 เกมในฤดูกาลถัดมา รวมแล้วเขาสามารถถล่มประตูไปถึง 132 ประตู ติดอันดับ 8 ในทำเนียบดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของอาร์เซน่อล ฟาน เพอร์ซี่ถูกบรรจุชื่อในรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีกในปี 2012 รวมถึงรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของสมาคมผู้สื่อข่าวอีกด้วย
